Subnet Mask คืออะไร


Subnet Mask คืออะไร

     Subnet mask เป็น Parameter อีกตัวหนึ่งที่ต้องระบุควบคู่กับหมายเลข IP Address หน้าที่ของ Subnet mask ก็คือ การช่วยในการแยกแยะว่าส่วนใดภายในหมายเลข IP Address เป็น Network Address และส่วนใดเป็นหมายเลข Host Address ดังนั้น จะสังเกตได้ว่า เมื่อเราระบุ IP Address ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เราจำเป็นต้องระบุ Subnet mask ลงไปด้วยทุกครั้ง

     การแบ่ง Subnet คือ การแบ่ง IP address ออกเป็นชุดย่อย ๆ ทำให้ Network IP เพิ่มขึ้น แต่ IP address ลดลง

Default Subnet mask ของแต่ล่ะ Class ดั้งนี้

     Class A จะมี Subnet mask เป็น 255.0.0.0 

     - เลขฐานสอง 11111111.00000000.00000000.00000000

     Class B จะมี Subnet mask เป็น 255.255.0.0 

    - เลขฐานสอง 11111111.11111111.00000000.00000000

     Class C จะมี Subnet mask เป็น 255.255.255.0 

     - เลขฐานสอง 11111111.11111111.11111111.00000000

เลข IP ที่เป็น Private networks ของแต่ล่ะ Class มีดังนี้

     Class-A คือ ช่วง 10.0.0.0 - 10.255.255.255

         - IP Class - A : จะมีจะมีลูกข่ายในแต่ล่ะวง Subnet ได้ไม่เกิน 16,777,216 เครื่อง

     Class-B คือ ช่วง 172.16.0.0 - 172.31.255.255

         - IP Class - B : จะมีจะมีลูกข่ายในแต่ล่ะวง Subnet ได้ไม่เกิน 65,536 เครื่อง

     Class-C คือ ช่วง 192.168.0.0 -192.168.255.255  (องค์กรขนาดเล็ก และเน็ตบ้านใช้ Subnet Mask Class C)

          - IP Class - C : จะมีจะมีลูกข่ายในแต่ล่ะวง Subnet ได้ไม่เกิน 256 เครื่อง

* จำนวนเครื่องของแต่ล่ะ Subnet ยังต้องหัก Subnet ID กับ Broadcast Address ออกไป Subnet ล่ะ 2 หมายเลข

ใน 1 Subnet จะมีส่วนประกอบหลัก ๆ 3 อย่าง คือ

     - Network IP หรือ IP เริ่มต้นของแต่ละ Network

     - IP Address ของเครื่องลูกข่าย

     - Boardcast IP หรือ IP สุดท้ายของ Network ถ้าหากส่งข้อมูลให้ IP นี้ จะหมายถึงส่งข้อมูลไปให้ทุก ๆ เครื่อง

ตัวอย่างการคำนวณ Subnet mask Class - C ซึ่งเป็น Class ที่เรานิยมกัน

ตัวอย่างที่ 1

IP คือ 192.168.10.0/24

Subnet mask  คือ 255.255.255.0

Network IP = 192.168.10.0

IP Address = 192.168.10.1 – 192.168.10.254

Boardcast = 192.168.10.255

192.168.10.0/24 อธิบายคือ IP Network = 192.168.10.0 Subnet = /24 

จะเห็นได้ว่า ปกติ IP ใน Class C จะมีจำนวน 256 host แต่ใช้งานได้จริงๆ แค่ 254 host เพราะต้องกันเป็น Network IP และ Boardcast IP ไป 2 หมายเลข

/24 หมายถึง 24 bit 

ในหนึ่ง IP จะมีหมายเลขอยู่ 4 ชุด ชุดละ 8 bit รวมเป็น 32 bit ถ้าเราเอา 24 bit ก็คือ

11111111 11111111 11111111 00000000 

แล้วแปลงกลับเป็นเลขฐาน 10 ก็จะได้ 255 255 255 0 คือหมายเลข Subnet mask นั้นเอง

ตัวอย่างที่ 2 

Network Address 192.168.10.0/27

Subnet mask คือ 255.255.255.224

หา subnet

bit ที่ถูกยืมมา 3

255.255.255.11100000

ดั้งนั้น จำนวน subnet ที่ได้คือ 2 ยกกำลัง 3 - 2 = 6 subnet

หา Host

255.255.255.11100000

Bit ที่เหลือจากการยืมจากข้างบน คือ 5

ก็นำมาเข้าตามสูตรเหมือนกัน 2 ยกกำลัง 5 - 2 = 30 host 

ใน 1 วง network มี 30 host

หมายเลข Subnet ที่แบ่งได้ คือ 

Subnet Zero : 192.168.10.0 - 192.168.10.31 

Subnet 1 : 192.168.10.32 - 192.168.10.63

Subnet 2 : 192.168.10.64 - 192.168.10.95

Subnet 3 : 192.168.10.96 - 192.168.10.127

Subnet 4 : 192.168.10.128 - 192.168.10.159

Subnet 5 : 192.168.10.160 - 192.168.10.191

Subnet 6 : 192.168.10.192 - 192.168.10.223

Broadcast : 192.168.10.224 - 192.168.10.255 

จะเห็นได้ว่า มีแค่เพียง 6 Subnet เท่านั้น ที่ใช้ได้ แต่ในทางปฏิบัติ เราสามารถใช้คำสั่ง subnet zero ให้สามารถใช้งานได้

* การคำนวณจะมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นตามนำนวน Bit ที่นำมาคำนวณ

ใหม่กว่า เก่ากว่า