แม้ว่าหน้าจอเมื่อล็อก (Lock Screen) บน Windows นั้นช่วยให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลสำคัญโดยไม่ต้องลงชื่อเข้า เช่น มีอีเมลใหม่ เป็นต้น และภาพฉากหลังยังเพิ่มความสวยงามช่วยให้เกิดความสบายตาสบายใจได้อีกด้วย แต่ใช่ว่าทุกคนจะชื่นชอบคุณสมบัติดังกล่าวนี้ เนื่องจากมันเพิ่มขั้นตอนการลงชื่อเข้าเครื่อง ดังนั้นถ้าคุณไม่ชอบหน้าจอเมื่อล็อกคุณสามารถปิดการทำงาน (Disable Lock Screen) ได้ตามขั้นตอนด้านล่างครับ
แนะนำ Lock Screen
ไมโครซอฟท์ได้แนะนำคุณสมบัติหน้าจอเมื่อล็อก (Lock Screen) บน Windows ครั้งแรกในเวอร์ชัน Windows 8 และมีใช้เรื่อยมาจนถึง Windows 10 หน้าจอเมื่อล็อกนั้นออกแบบมาเพื่อแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ เวลาและวันที่, อีเมล, แบตเตอรี่, สถานะการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย เป็นต้น ให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลสำคัญได้ทันที (เช่น มีอีเมลใหม่ เป็นต้น) โดยไม่ต้องลงชื่อเข้า ซึ่งผู้ใช้สามารถทำการปรับแต่งข้อมูลและภาพที่ใช้เป็นฉากหลังได้ตามความต้องการ นอกจากนี้หน้าจอเมื่อล็อกยังเพิ่มความสวยงามและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับผู้ใช้ได้อีกด้วย แต่เนื่องจากมันออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนอุปกรณ์ระบบสัมผัส (touch-enabled devices) เป็นหลัก ดังนั้นจึงไม่ค่อยสะดวกในการใช้งานบนเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์ที่ใช้จอภาพแบบธรรมดาครับ
ปัญหาการใช้ Lock Screen
ปัญหาที่เกิดจากการใช้หน้าจอเมื่อล็อกคือ เมื่อคุณเปิด Windows 10 แทนที่จะเข้าสู่หน้าลงชื่อเข้าดังรูปที่ 1 แต่จะได้หน้าจอเมื่อล็อกดังรูปที่ 2 ซึ่งทำให้คุณต้องแตะหน้าจอ (สำหรับอุปกรณ์จอสัมผัส) ขยับเม้าส์ หรือกดแป้นพิมพ์บนคีย์บอร์ด 1 ครั้ง ก่อนจึงจะเข้าสู่หน้าลงชื่อเข้า
วิธีปิดการทำงาน Lock Screen บน Windows 8/8.1/10
การแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ทำได้โดยปิดการทำงานหน้าจอเมื่อล็อก แต่เนื่องจาก Windows ไม่ได้เตรียมเครื่องมือสำหรับใช้ทำงานนี้ไว้ให้เป็นการเฉพาะ ทำให้ต้องทำการปิดการทำงานผ่านทาง Local Policy โดยการใช้เครื่องมือ Group Policy Editor หรือ Registry Editor (โดยส่วนตัวผมชอบใช้ Group Policy Editor มากกว่า) ครับ
ใช้โปรแกรม Group Policy Editor
วิธีปิดการทำงาน หน้าจอเมื่อล็อกบน Windows 8/8.1/10 โดยใช้โปรแกรม Group Policy Editor มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. กดแป้นพิมพ์ลัด Windows + R จากนั้นพิมพ์ gpedit.msc ในช่อง Open เสร็จแล้วคลิก OK หรือกดปุ่ม Enter
2. ในหน้าต่าง Local Group Policy Editor ในบานหน้าต่างซ้ายมือให้เลือก Personalization ซึ่งอยู่ภายใต้โฟลเดอร์ Computer Configuration\Administrative Templates\Control Panel
3. ในบานหน้าต่างขวามือให้ดับเบิลคลิก Do not display the lock screen (รูปที่ 3)
4. ในหน้าต่าง Do not display the lock screen ให้เลือก Enabled จากนั้นคลิก Apply แล้วคลิก OK
เคล็ดลับ: ในกรณีต้องการให้ Windows กลับไปแสดงหน้าหน้าจอเมื่อล็อกอีกครั้ง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1-4 โดยในขั้นตอนที่ 4 ให้เลือกเป็น Not Configured หรือ Disabled3. ในบานหน้าต่างขวามือให้ดับเบิลคลิก Do not display the lock screen (รูปที่ 3)
4. ในหน้าต่าง Do not display the lock screen ให้เลือก Enabled จากนั้นคลิก Apply แล้วคลิก OK
เคล็ดลับ: ในกรณีต้องการให้ Windows กลับไปแสดงหน้าหน้าจอเมื่อล็อกอีกครั้ง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1-4 โดยในขั้นตอนที่ 4 ให้เลือกเป็น Not Configured หรือ Disabled
5. ปิดหน้าต่างโปรแกรม Group Policy Editor เพื่อจบการทำงาน แล้วทำการลงชื่อออกหรือเริ่มต้นระบบใหม่เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
ใช้โปรแกรม Registry Editor บน Windows 8/8.1/10
วิธีปิดการทำงาน หน้าจอเมื่อล็อกบน Windows 8/8.1/10 โดยใช้โปรแกรม Registry Editor (regedit.exe) มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. กดแป้นพิมพ์ลัด Windows + R จากนั้นพิมพ์ regedit ในช่อง Open เสร็จแล้วคลิก OK หรือกดปุ่ม Enter (คลิก Yes บนหน้า User Account Control (ถ้ามี)) เพื่อเปิดโปรแกรม Registry Editor
2. บนหน้าต่าง Registry Editor ให้ท่องไปยัง
HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Policies\Microsoft\Windows\Personalization
>> กรณีไม่มีคีย์ Personalization ให้คลิกขวาบน Windows เลือก New จากนั้นเลือก Key โดยให้ตั้งชื่อคีย์ที่สร้างขึ้นว่า Personalization
3. ในบานหน้าต่างด้านซ้ายให้แน่ใจว่าคลิกเลือก Personalization จากนั้นในบานหน้าต่างด้านขวา ให้คลิกขวาเลือก New แล้วเลือก DWORD (32-bit) value โดยให้ตั้งชื่อว่า NoLockScreen และตั้งค่าเป็น 1
4. ปิดโปรแกรม Registry Editor แล้วทำการลงชื่อออกหรือเริ่มต้นระบบใหม่เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
เคล็ดลับ: ในกรณีต้องการให้ Windows กลับไปแสดงหน้าหน้าจอเมื่อล็อกอีกครั้ง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1-3 โดยในขั้นตอนที่ 3 ให้ตั้งค่า NoLockScreen เป็น 0
ผลการทำงาน
เมื่อทำการตั้งค่า Local Policy ค่าตามวิธีการด้านบนเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้น Windows จะไม่ทำการแสดงหน้าจอเมื่อล็อกอีกต่อไป ทำให้คุณสามารถเข้าถึงหน้าลงชื่อเข้าได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาแตะหน้าจอ ขยับเม้าส์ หรือกดแป้นพิมพ์บนคีย์บอร์ด โดยคุณสามารถทดสอบการทำงานโดยการกดปุ่ม Windows + L เพื่อล็อก Windows
ใครที่ใช้ต้องการปิดหน้าจอเมื่อล็อกสามารถทำได้ตามวิธีการด้านบน ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้งานได้กับ Windows 8/8.1 และ 10 ครับ
ที่มา : คลิก